ทั่วโลกเพิ่มมาตรการกีดกันการค้า สศก.เตือนพัฒนากลไกโปร่งใส-เข้มระเบียบ WTO (แนวหน้า)
นายอนันต์ ลิลา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า รายงาน OVERVIEW OF DEVELOPMENTS IN THE INTERNATIONAL TRADING ENVIRONMENT ขององค์การการค้าโลก (WTO) ฉบับล่าสุด ได้คาดการณ์ว่า การเติบโตทางการค้าของโลกในปี 2557 นี้ จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4-4.5 แต่ขณะเดียวกัน พบว่า มีมาตรการที่เป็นข้อจำกัดทางการค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นถึง 407 มาตรการ ซึ่งนับเป็นอุปสรรคต่อการค้าระหว่างประเทศอย่างมาก อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการนำเข้าของโลกร้อยละ 1.3 หรือคิดเป็นมูลค่า 240 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การเพิ่มขึ้นของมาตรการดังกล่าวซึ่งมีถึง 407 มาตรการ และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่มาตรการทางการค้าที่ถูกยกเลิกมีจ านวนน้อยกว่ามาก ทำให้ปริมาณการใช้ข้อจำกัดทางการค้าและการบิดเบือนทางการค้ายังคงเพิ่มจำนวนขึ้น โดยมาตรการที่ถูกนำมาใช้มากที่สุด ได้แก่ มาตรการเยียวยาทางการค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมาตรการต่อต้านการอุดหนุน (Anti-dumping) และมาตรการปกป้อง (Safeguard) รวมถึงการเพิ่มภาษีนำเข้า และพิธีการทางศุลกากร เป็นต้น โดยจะเห็นว่าประเทศสมาชิกจะต้องร่วมกันรับความเสี่ยงจากผลกระทบที่สะสม ต่อเนื่องจากมาตรการจำกัดทางการค้าที่มีอยู่แล้วและที่เกิดขึ้นใหม่
อย่างไรก็ตาม หวังว่าผลจากความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้าจากการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก ครั้งที่ 9 ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา จะมีส่วนสนับสนุนการปฏิบัติด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าของประเทศสมาชิกได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ประกอบกับการจัดทำความตกลงทางการค้าในภูมิภาค (Regional Trade Agreements: RTAs) ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น ทำให้การเปิดเสรีและการสร้างกฎกติกาทางการค้ามีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น
สำหรับปี 2557 จะเป็นปีที่มีความสำคัญอย่างมากต่อองค์การการค้าโลก เพราะเป็นปีที่การเจรจารอบโดฮาจะกลับเข้าสู่การเจรจาอีกครั้ง ท่ามกลางความท้าทายสำคัญ คือ มาตรการจำกัดทางการค้า และความตกลงทางการค้าในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความโปร่งใสในมาตรการทางการค้าและมาตรการที่เกี่ยวข้อง ส่งผลต่อการปฏิรูประบบการค้าแบบพหุภาคี
และการปฏิบัติตามภารกิจหลักขององค์การการค้าโลกในทุกด้านอย่างมีนัยสำคัญ
ดังนั้น ประเทศไทยจะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนากลไกความโปร่งใสจากการใช้มาตรการทางการค้า และมาตรการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสนับสนุนกฎระเบียบภายใต้ WTO ที่มีอยู่ ให้สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิผลมากที่สุด